วันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2551
ข้าวใหม่หอมๆ
คุณเคยทานข้าวใหม่หอมๆหรือเปล่าครับ ที่ว่ากันว่าข้าวหอมมะลิ คุณว่าหอมจริงหรือเปล่า มันก็หอมนะแต่ว่าไม่ใช่กลิ่นหอมของข้าวใหม่ ถ้าคุณได้ทานจะทำให้ติดใจมิรู้ลืมเลยเชียวล่ะ ที่กล่าวมานี้เพียงแต่อยากให้สังคมได้รับรู้ถึงสิ่งที่ผมเคยสัมผัสและลิ้มลองมาเท่านั้นครับ กลิ่นข้าวใหม่นั้นต่างกับข้าวทั่วๆไปซึ่งคุณจะสัมผัสได้ ลองได้สูดกลิ่นได้ลิ้มรส มันจะทำให้คุณรู้สึกว่าได้ไปยืนอยู่ที่ทุ่งนากันกว้างใหญ่กลางสายลมอ่อนๆกลิ่นข้าวโชยมาแตะจมุกดุจดั่งได้ลิ้มลองข้าวแห่งทวยเทพเชียว สิ่งเหล่านี้ไม่อาจบรรยายได้หมด ถ้าสนใจอยากจะลิ้มลองคอยติดตามตอนต่อไปนะครับ แล้วจะมีตัวอย่างมาให้ได้ลิ้มลองกันไม่นานเกินรอหรอกครับ
วันพุธที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2551
วันจันทร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2551
ประวัติหมู่บ้านโละโคะ
ประวัติการจัดตั้งหมู่บ้าน (ระบุรายละเอียด)
หมู่บ้านโล๊ะโค๊ะเริ่มก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2180 (ตามหลักฐานประจำหมู่บ้านที่เขียนเป็นภาษากะเหรี่ยง) และต่อมาได้ตั้งชื่อหมู่บ้านเป็นหมู่บ้านโล๊ะโค๊ะ ซึ่งแปลโดยแยกคำว่า โล๊ะ แปลว่า ตองก้อ เป็นไม้ชนิดหนึ่งที่ช้ใบมาเป็นหลังคาบ้านในสมัยนั้น และคำว่าโค๊ะ แปลว่า หอยที่มีอยู่ตามลำธารต้นน้ำคลองวังเจ้าซึ่งมีมากในสมัยนั้นที่เริ่มตั้งชื่อหมู่บ้านเมื่อปี พ.ศ. 2348 ขณะนั้นเป็นหมู่บ้านกะเหรี่ยงตั้งอยู่หมู่ที่ 15 ตำบลโกสัมพี อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร โดยมีผู้นำคนแรกคือ นายจอยะรักชาติ ลักษณะความเป็นอยู่ของหมู่บ้านสมัยนั้น ใช้ไม้ไผ่สร้างบ้าน การคมนาคมใช้การเดินเท้าและม้า อาชีพหลักคือ การทำนาและหาของป่า
ต่อมาปี พ.ศ. 2510 เกิดการแทรกซึมของพรรคคอมมิวนิสต์ในหมู่บ้านชาวเขา รวมถึงหมู่บ้านม้งของผู้ใหญ่หวังชัว ซึ่งเป็นหมู่บ้านม้งที่อยู่ห่างจากหมู่บ้านโล๊ะโค๊ะปัจจุบันไปทางทิศตะวันตกประมาณ 4 กิโลเมตร ทำให้ชาวบ้านของผู้ใหญ่บ้านหวังชัวได้รับผลกระทบ จนชาวบ้านไม่สามารถอยู่ได้ ซึ่งในขณะนั้นผู้ใหญ่บ้านหวังชัวได้เสียชีวิตด้วยโรคชรา จึงมีนายท่อ แซ่ม้า เป็นผู้นำหมู่บ้านคนต่อมาและได้นำชาวบ้านม้งอพยพเพื่อหนีภัยคอมมิวนิสต์ มาอยู่กับรัฐบาลไทยที่บ้านคลองลาน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ในระหว่างการเดินทางได้ผ่านหมู่บ้านโล๊ะโค๊ะได้พบกับนายทาตุ๊ รักชาติ ซึ่งเป็นผู้นำชุมชนเผ่ากะเหรี่ยงบ้านโล๊ะโค๊ะในขณะนั้น ได้ปรึกษาหารือกันและได้ตกลงให้ชาวบ้านของผู้ใหญ่หวังชัว มาอยู่ร่วมกับบ้านโล๊ะโค๊ะ เพื่อร่วมมือกันต่อสู้ และผลักดันผู้ที่ไม่หวังดีที่จะเข้ามาคุกคามหมู่บ้านและประเทศชาติ จึงทำให้หมู่บ้านโล๊ะโค๊ะอยู่ได้ถึงทุกวันนี้ เป็นเวลากว่า 360 ปี ด้วยเหตุผลนี้ทำให้หมู่บ้านโล๊ะโค๊ะอยู่ด้วยกันของสองชนเผ่าตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
หมู่บ้านโล๊ะโค๊ะเริ่มก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2180 (ตามหลักฐานประจำหมู่บ้านที่เขียนเป็นภาษากะเหรี่ยง) และต่อมาได้ตั้งชื่อหมู่บ้านเป็นหมู่บ้านโล๊ะโค๊ะ ซึ่งแปลโดยแยกคำว่า โล๊ะ แปลว่า ตองก้อ เป็นไม้ชนิดหนึ่งที่ช้ใบมาเป็นหลังคาบ้านในสมัยนั้น และคำว่าโค๊ะ แปลว่า หอยที่มีอยู่ตามลำธารต้นน้ำคลองวังเจ้าซึ่งมีมากในสมัยนั้นที่เริ่มตั้งชื่อหมู่บ้านเมื่อปี พ.ศ. 2348 ขณะนั้นเป็นหมู่บ้านกะเหรี่ยงตั้งอยู่หมู่ที่ 15 ตำบลโกสัมพี อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร โดยมีผู้นำคนแรกคือ นายจอยะรักชาติ ลักษณะความเป็นอยู่ของหมู่บ้านสมัยนั้น ใช้ไม้ไผ่สร้างบ้าน การคมนาคมใช้การเดินเท้าและม้า อาชีพหลักคือ การทำนาและหาของป่า
ต่อมาปี พ.ศ. 2510 เกิดการแทรกซึมของพรรคคอมมิวนิสต์ในหมู่บ้านชาวเขา รวมถึงหมู่บ้านม้งของผู้ใหญ่หวังชัว ซึ่งเป็นหมู่บ้านม้งที่อยู่ห่างจากหมู่บ้านโล๊ะโค๊ะปัจจุบันไปทางทิศตะวันตกประมาณ 4 กิโลเมตร ทำให้ชาวบ้านของผู้ใหญ่บ้านหวังชัวได้รับผลกระทบ จนชาวบ้านไม่สามารถอยู่ได้ ซึ่งในขณะนั้นผู้ใหญ่บ้านหวังชัวได้เสียชีวิตด้วยโรคชรา จึงมีนายท่อ แซ่ม้า เป็นผู้นำหมู่บ้านคนต่อมาและได้นำชาวบ้านม้งอพยพเพื่อหนีภัยคอมมิวนิสต์ มาอยู่กับรัฐบาลไทยที่บ้านคลองลาน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ในระหว่างการเดินทางได้ผ่านหมู่บ้านโล๊ะโค๊ะได้พบกับนายทาตุ๊ รักชาติ ซึ่งเป็นผู้นำชุมชนเผ่ากะเหรี่ยงบ้านโล๊ะโค๊ะในขณะนั้น ได้ปรึกษาหารือกันและได้ตกลงให้ชาวบ้านของผู้ใหญ่หวังชัว มาอยู่ร่วมกับบ้านโล๊ะโค๊ะ เพื่อร่วมมือกันต่อสู้ และผลักดันผู้ที่ไม่หวังดีที่จะเข้ามาคุกคามหมู่บ้านและประเทศชาติ จึงทำให้หมู่บ้านโล๊ะโค๊ะอยู่ได้ถึงทุกวันนี้ เป็นเวลากว่า 360 ปี ด้วยเหตุผลนี้ทำให้หมู่บ้านโล๊ะโค๊ะอยู่ด้วยกันของสองชนเผ่าตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ร้านกาแฟเล็กๆ
ในร้านกาแฟเล็กๆแห่งหนึ่ง~ มีแขวนกระดิ่งเล็กๆไว้ที่ประตูร้าน...~ทุกครั้งที่มีแขกเข้าร้าน ก็จะทำให้กระดิ่ง นั้นส่งเสียงดัง...~" ~... Ding Ding ...~ "วันหนึ่ง มีผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 30 กว่า เข้ามาในร้านกาแฟนี้...~เจ้าของร้านสาวสวยก็รีบออกมา ต้อนรับให้เขานั่งด้านใน...~" กาแฟแก้วนึงครับ~ " ชายคนนั้นได้พูดขึ้น...~ " ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ~ " เจ้าของร้านสาวสวยรีบตอบอย่างกระตือรือร้น...~ เจ้าของร้านสาวพูดพลางยิ้มให้อย่างมีมารยาท...~แล้วก็ไป บดเม็ดกาแฟ และตั้งกา ต้มกาแฟ...~ชายหนุ่มนั่งมองหญิงสาวอยู่ตลอด...~ไม่นานนัก เจ้าของร้านสาวก็นำกาแฟมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะชายหนุ่ม...~ " ขอบคุณครับ~ " ชายหนุ่มตอบอย่างสุภาพ...~ " คุณเพิ่งมาเป็นครั้งแรกใช่ไหมคะ~? รู้สึกว่าที่นี่เป็นอย่างไรบ้าง~? " เจ้าของร้านสาวถาม...~ " ใช่ครับ~! ผมรู้สึกว่าที่นี่บรรยากาศดีมากๆเลย~ " ชายหนุ่มตอบอย่างเป็นกันเอง...~ " ฉันก็ชอบบรรยากาศของร้านนี้มากเหมือนกัน~ ถึงแม้ว่ากิจการร้านนี้ไม่ค่อยดีนัก~ ฉันกับสามีก็เสียดาย~ ไม่อยากจะปิดร้านทิ้ง~ " ทั้งคู่เงียบไปสักพัก...~ " ผมขอถามอะไรคุณบางอย่างได้ไหมครับ...~? เออ...~ ก่อนที่จะถามคุณ ผมอยากจะเล่าเรื่องเรื่องหนึ่งให้คุณ ฟังก่อน " ชายหนุ่มพูดถามขึ้นมา " ได้ค่ะ~ คุณพูดมาได้เลย " เจ้าของร้านสาวก็สนใจที่จะฟัง...~ ชายหนุ่มก็เล่าเรื่องเรื่องหนึ่งซึ่งผ่านมานานมากแล้ว...~ " เมื่อก่อนผมมีแฟนคนหนึ่ง~ เราสองคนก็ตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในอนาคตแล้ว...~ " " ... ความรักของเรา สองคนนั้นถึงแม้จะธรรมดา แต่แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว...~ "" ... เพราะผมรักเธอมาก...~!!! เพียงแค่มีเธออยู่ข้างๆผมก็มีความสุขมากแล้ว...~!! "" ... แต่ทว่า ...~!!! " " ... ความสุขอันนี้มันช่างสั้นนักหลังจากนั้นก็มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น...~ "" ... ก่อนหน้าพิธีหมั้นของเราสองคนหนึ่งเดือน~ คืนนั้นผมมีธุระต้องทำ...~ "" ... จึงไม่สามารถไปส่งเธอกลับบ้านได้ ในคืนนั้น เธอโดนคนร้ายรุมข่มขืน~!!! " ชายหนุ่มพูดจบ พลาง มือก็หยิบแก้วกาแฟ นั้นขึ้นมาจิบ...~" แล้วหลังจากนั้นเป็นอย่างไรคะ~? ความรู้สึกของคุณที่มีต่อเธอเปลี่ยนไปหรือ~? " เจ้าของร้านสาวถาม อย่างสงสัย...~" ... ถึงแม้จะมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น...~ ความรักของผมที่มีให้เธอก็คงยังมั่นคง...~!!! "" ... มิได้แปรเปลี่ยนเลยสักนิด...~ ผมก็ตั้งใจจะจัดพิธีหมั้นขึ้นตามเดิม...~ " "" ... แต่...~!!! "" ... เธอคิดไม่ตก เธอเชื่อว่าเธอไม่ได้เป็นเธอคนเดิมแล้ว ในวันหมั้นของเราสองคนวันนั้น...~ "" ... เธอผูกคอตาย...~!!! "" ... โชคยังดีที่ว่าพวกเราพบเธอได้เร็ว ช่วยชีวิตเธอไว้ได้...~ "" ... แต่เพราะว่าสมองขาดอ็อกซิเจ็นนานเกินไป ทำให้เธออยู่ในสภาพไม่มีความรู้สึกตัว...~!!! "" ... และอาจจะไม่ฟื้นขึ้นมาเลยก็ได้...~ "" ... สุดท้าย เธอก็ฟื้นขึ้นมา...~!!! "ชายหนุ่ม หยุดพัก หายใจ แล้วก็เล่าต่อว่า...~ " ... เมื่อผมรู้ว่าเธอฟื้นขึ้นมาแล้วก็รีบไปหาเธอ...~ "" ... แต่...~!!! "" ... พ่อแม่เธอขวางกั้นผมไว้ไม่ให้ไปพบเธอ พวกเขาคุกเข่าลงมาขอร้องผม...~ "" ... กลายเป็นว่าความทรงจำบางส่วนได้หายไป~ หมอบอกว่าเมื่อคนโดนกระตุ้นจิตใจอย่างแรง...~ "" ... ก็อาจจะเลือกที่ จะหลบหลีกความทางจำอันนั้นโดยการฝังลึกไว้ในใจตัวเอง ไม่ต้องการที่จะจำเรื่องเลวร้ายนั้นอีก...~ "" ... เธอลืม หมดทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขาด้วย พ่อแม่เธอขอร้องให้ผมอย่าเพิ่งไปพบเธอสักพัก...~ "" ... เขาไม่ต้องการให้เธอ นึกถึงเรื่องน่าเศร้านั้นอีก เพราะกลัวว่า เธอจะฆ่าตัวตายอีก...~!!! "" ... บังเอิญเจอกันในที่อื่น ก็จะทำเป็นไม่รู้จัก ไม่ทักทายกันเด็ดขาด...~ "" ... ช่วงเวลานั้น มันช่างทรมานยิ่งนัก อยากรักเธอ...~ "" ... แต่ไม่อาจทำได้ อยากจะพบหน้าเธอ แต่ก็ไปพบไม่ได้ วันนี้ เป็นวันครบสิบปีนั้นแล้ว...~!!! "" ขอแสดงความยินดีให้ด้วยค่ะ คุณรอคอยมาสิบปีแล้ว ในที่สุดวันนี้ก็สามารถไปพบเธอได้แล้ว " หญิงสาวเจ้าของร้านตอบ...~" ใช่ครับ...~!!! "" ... แต่~ ยิ่งใกล้ถึงเวลานี้ ผมก็ยิ่งกลัว...~ "" ... สิบปีที่ผ่านมานี้~ ความรักผมนั้นยังไม่เปลี่ยน แต่ตัวเธอล่ะ...~?!? "" ... ถ้า ผมเล่าเรื่องในอดีตให้เธอฟัง เธอก็ยังจำผมไม่ได้...~?!? "" ... แล้วผมจะทำยังไงดีล่ะ...~?!? "" ... หรือว่าเธอได้แต่งงานไปแล้ว ผมควรจะทำเช่นไรดี...~?!? " " ... เพราะเช่นนี้ ผมอยากจะถามคุณว่า คุณคิดอย่างไรคับ...~? "" ... ถ้าแฟนผมคนนี้แต่งงานไปแล้ว ผมควรจะบอกให้เธอ ได้รับรู้เรื่องนี้มั้ย...~!?! "เจ้าของร้านสาวก็พูดอย่างจริงใจว่า...~" ถ้าสมมุติว่าเธอมีแฟนแล้วก็ไม่เป็นไร เพราะทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้...~ "" ... แต่งงานกัน คุณยังมีโอกาส แต่ถ้าเธอคนนั้นได้แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว...~ "" ... คุณก็ไม่ควรไปทำลายครอบครัวเขา...~ "ชายหนุ่มได้รับฟังแล้ว ก็แค่ตอบสั้นๆว่า...~" นั่นสินะ...~ " " ~... Ding Ding ...~ "พอดีเวลานี้ก็มีแขกคนอื่นเข้ามาในร้าน~ เจ้าของร้านสาวก็พูดกับชายหนุ่มว่า...~" ฉันต้องไปต้อนรับแขกแล้ว~ เชิญตามสบายนะคะ...~ " เธอเดินออกไปได้สองก้าว ก็หันกลับมาถามเขาว่า...~" จริงสิ~!!! คุณเพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรก~ ยังไม่ค่อยสนิทกับฉันมากนัก~ ทำไมถึงเล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟังล่ะคะ~? "" เพราะว่า...~ เธอคนนั้นเคยพูดเอาไว้ว่า...~ หลังแต่งงานแล้ว เธออยากจะเปิดร้านกาแฟเล็กๆอย่างนี้เหมือนกัน...~!!! " ชายหนุ่มคิดสักครู่ถึงตอบออกมา...~" อ๋อ~!!! อย่างนี้เองหรือคะ...~ " พูดจบเธอก็หันหลังกลับเดินไปต้อนรับแขกที่เข้ามาใหม่...~ชายหนุ่มมองตามร่างของเจ้าของร้านสาวนั้น...~น้ำตาเขาค่อยๆหยาดไหลออกมา เขาตัดสินใจไม่บอกเธอว่า....~แท้จริงแล้วเขามาที่ร้านนี้เพื่ออะไร...~แฟนของเขาคนนั้น อยู่ใกล้แค่เอื้อม...~แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขา และ เธอ นั้น...~มันช่างไกลยิ่งนัก...~
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)